ถุงน้ำรังไข่ โรคสุดฮิตที่ต้องรีบเคลียร์
โรคที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับความผิดปกติของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานของผู้หญิงอย่างเรานั้นมีอยู่มาก ทั้งมดลูก รังไข่ ท่อนำไข่ ปากมดลูก ช่องคลอด ซึ่งล้วนแต่เป็นโรคที่เราต้องใส่ใจมากๆ ทั้งนั้น ก่อนที่จะลุกลามกลายเป็นเนื้อร้าย แล้วต้องมานั่งน้ำตาตกกันภายหลัง
ถุงน้ำรังไข่ หรือซีสต์ที่รังไข่ หนึ่งในโรคที่สาวๆ ต้องรีบตัดสินใจเมื่ิอได้พบเจอ ถึงแม้ว่าถุงน้ำ หรือซีสต์นี้อาจจะเกิดขึ้นแล้วฝ่อไปเองได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่มันก็ยังมีถุงน้ำบางอย่างที่ต้องได้รับการผ่าตัด เพราะด้วยฮอร์โมนแล้วไม่สามารถยุบเองได้ หากปล่อยไปถุงน้ำบางชนิดอาจมีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงมาก เช่น ปวดท้องจนเดินไม่ได้ ซึ่งมักจะเกิดจากการที่ถุงน้ำแตก บิดขั้ว ถ้าถุงน้ำรังไข่แตกอาจจะทำให้มีพังผืดในท้อง ทำให้ปวดท้องน้อยเรื้อรัง ลามไปถึงการมีลูกยาก ถ้ามีการบิดขั้วเกิดขึ้นอาจทำให้ต้องเสียรังไข่ข้างนั้นไปเลยก็ได้ และถุงน้ำรังไข่บางชนิด ก็มีโอกาสพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้
สัญญาณเตือนที่มาพร้อมความเสี่ยง
- มีอาการปวดท้องน้อย และชอบปวดช่วงมีประจำเดือน
- ประจำเดือนมามาก หรือมาประปริบกระปรอยผิดปกติ มีอาการปวดที่รุนแรงมากขึ้นทุกเดือน
- รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการที่ซีสต์โต และไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ
- หน้าท้องโตขึ้นผิดปกติ
- ปวดท้องน้อยเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดจากขั้วถุงน้ำรังไข่บิด หรือแตก
ผ่าตัดผ่านกล้อง ตัวช่วยการกำจัดถุงน้ำรังไข่
การผ่าตัดถุงน้ำรังไข่ผ่านกล้อง (Laparoscopic Cystectomy) เป็นการเจาะผ่านช่องท้องประมาณ 1- 3 จุด เพื่อสอดอุปกรณ์ผ่าตัด และกล้องขนาดเล็กเข้าไปบันทึกภาพ และส่งภาพมายังจอรับซึ่งทำหน้าที่แทนตาของแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือเล็กๆ ที่ช่วยในการผ่าตัด เช่นเครื่องมือจับเนื้อเยื่อ เครื่องมือจี้ห้ามเลือด เครื่องมือตัดและเย็บ การผ่าตัดผ่านกล้องนี้ยังสามารถเข้าไปถึงจุดเล็กๆ ที่มือแพทย์ไม่สามารถเข้าไปได้ เกิดความกระทบกระเทือนอวัยวะภายในน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ทำให้แผลมีขนาดเล็กประมาณ 0.5-1 เซ็นติเมตรเท่านั้น
โดย นพ.มานพ จันทพันธ์ : สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งนรีเวช และการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (มีบุตรยาก)