เกี่ยวกับเรา

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์

เกี่ยวกับเรา

มอบการรักษาที่ดีที่สุดและครอบคลุมทุกความต้องการ

โรงพยาบาลสิริโรจน์เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกที่เปิดให้บริการโดยคนภูเก็ต ด้วยเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของพันตรีนายแพทย์อนุโรจน์ ธารสิริโรจน์ อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคต่อมไร้ท่อ จากประเทศสหรัฐอเมริกา และแพทย์หญิงสุปาณี ธารสิริโรจน์ กุมารแพทย์ ซึ่งต้องการนำความรู้ความสามารถทางการแพทย์กลับมาพัฒนาระบบสาธารณสุขในจังหวัดภูเก็ตให้ทัดเทียมกับพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้คนภูเก็ตและจังหวัดข้างเคียงได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ในปี พ.ศ. 2521 นพ.อนุโรจน์ ได้เปิดคลินิกส่วนตัวชื่อ “สิริโรจน์คลินิก” บนถนนพังงา จังหวัดภูเก็ต ด้วยข้อจำกัดในการรักษาพยาบาลที่สิริโรจน์คลินิกซึ่งไม่สามารถให้คนไข้พักค้างคืนที่คลินิกเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องได้ ในปี 2525 นพ.อนุโรจน์ จึงได้ก่อตั้งโรงพยาบาล ชื่อว่า “สิริโรจน์พยาบาล” ตั้งอยู่บนถนนกระบี่ โดยเป็นโรงพยาบาลขนาด 35 เตียง ประกอบด้วยห้องตรวจผู้ป่วยนอก ห้องพักผู้ป่วยใน ห้องคลอด ห้องผ่าตัด มีแพทย์ ในสาขาหลักๆ อย่างละท่าน คือ อายุรแพทย์ กุมารแพทย์ ศัลยแพทย์ และสูตินรีแพทย์

หลังจากเปิดดำเนินการเป็นเวลา 10 ปี โรงพยาบาลมีความเจริญเติบโตขึ้น เช่นเดียวกับการเติบโตขึ้นของจังหวัดภูเก็ต จึงได้มีการขยับขยายโรงพยาบาลเพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการรักษาพยาบาลให้ได้มาตรฐาน และมีความเป็นสากล เพื่ออำนวยความสะดวก และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่มารับบริการ

ปลายปี 2536 โรงพยาบาลสิริโรจน์ จึงได้ย้ายสถานที่ให้บริการมาที่ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 หรือถนนบายพาส บนเนื้อที่ 10 ไร่ ภายใต้ชื่อบริษัท ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล ฮอสปิตอล จำกัด ( Phuket International Hospital Company Limited) และเปลี่ยนชื่อจาก “สิริโรจน์พยาบาล” เป็น “โรงพยาบาลสิริโรจน์” โดยในระยะแรกเป็นโรงพยาบาลขนาด 105 เตียง

จังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมตลอดปี ทำให้เกิดการขยายตัวของชุมชนในภูเก็ตไปพร้อมกับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว สืบเนื่องจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ทำให้พื้นที่การให้บริการของโรงพยาบาลสิริโรจน์เริ่มไม่เพียงพอที่จะรองรับผู้ป่วย ดังนั้นจึงได้มีการเพิ่มอาคารให้บริการผู้ป่วยหลังใหม่ และเริ่มเปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายน 2550 ซึ่งทำให้มีการเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยเป็น 151 เตียง และเพิ่มพื้นที่ให้บริการผู้ป่วยนอกอีก 2 ชั้น ห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) ใหม่ ศูนย์ศัลยกรรมความงาม อาคารจอดรถในร่ม ตลอดจนมีการเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ คลินิกใหม่ๆ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้บริการได้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น

หลังจากที่ โรงพยาบาลสิริโรจน์ ได้เข้าร่วม BDMS Group ในปี 2557 โรงพยาบาลฯ ได้เพิ่มศักยภาพและบริการทางการแพทย์ พร้อมปรับปรุงและขยายพื้นที่บริการเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายสำหรับผู้มารับบริการ อาทิ การปรับปรุงห้องฉุกเฉิน และการเข้ารับการรับรองมาตรฐานศูนย์บริบาลผู้บาดเจ็บสำหรับประเทศไทย ระดับ  3 การรับรองมาตรฐานแห่งความปลอดภัยด้านการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระดับโลก CAMTS (The Commission on Accreditation of Medical Transport Systems) สหรัฐอเมริกา ด้านระบบการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ และถือเป็นหนึ่งในสมาชิกของ  BDMS Emergency Services หรือ ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน เครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) นับเป็นการตอกย้ำถึงความพร้อมในด้านการบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยระดับสากล และได้รับความไว้วางใจเสมือนเป็นคนในครอบครัว จากประชาชนชาวภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการปรับปรุงห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) ให้เป็นสัดส่วน ทันสมัย มีแพทย์เฉพาะทางที่ดูแลผู้ป่วยวิกฤตตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังได้พัฒนาให้เป็น Smart ICU ติดตั้งระบบ Teleconference ที่สามารถขอคำปรึกษาจากโรงพยาบาลในกรุงเทพได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันโรงพยาบาลฯ ได้ปรับปรุงศูนย์รังสีวินิจฉัย และเปลี่ยนเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย CT SCAN  128-Slice ซึ่งช่วยวินิจฉัยโรคต่างๆ ตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาพมีความคมชัดและมีความละเอียดมากขึ้น  แม่นยำ ช่วยให้การตรวจผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยเด็ก ทำได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ได้รับรังสีลดลงกว่าเครื่องรุ่นเก่า จากนั้นในเดือนตุลาคม จะดำเนินการติดตั้ง Magnetic Resonance Imaging  (MRI) ซึ่ง MRI คือเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นเทคโนโลยีที่สามารถให้ภาพที่แยกความแตกต่างระหว่างเนื้อเยื่อต่างๆ ได้ชัดเจน ให้ความถูกต้องและแม่นยำสูง เนื่องจากให้ความแตกต่างของเนื้อเยื่อได้ดี ทำได้หลายระนาบ สามารถใช้ตรวจได้ทุกระบบของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่ไม่ใช่กระดูก ให้รายละเอียดได้ดีกว่าการตรวจด้วย CT SCAN และไม่มีอันตรายจากรังสีตกค้าง

ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ ได้พัฒนาบริการทางการแพทย์ครอบคลุมทุกมิติอย่างต่อเนื่องในระดับตติยภูมิ (Tertiary Care) และได้เปลี่ยนชื่อ หรือ Rebranding เป็นโรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ (Bangkok Hospital Siriroj) เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562  นับเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพและความพร้อมด้านการให้บริการทางการแพทย์ที่เป็นเลิศ แต่ยังคงไว้การบริการด้วยเอกลักษณ์วิถีคนภูเก็ต ในโครงสร้างราคาแบบเดิม และ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นโรงพยาบาลที่หนึ่งในใจของชาวภูเก็ต ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

“โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์” ณ ที่แห่งนี้ จะมีแต่สัมผัสที่อุ่นใจ ด้วยเรื่องสุขภาพที่เราเชี่ยวชาญ