คุณสมบัติหลัก
- ปัจจุบัน วัคซีน HPV มีให้เลือกใช้ 3 ชนิด คือ วัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์, ชนิด 4 สายพันธุ์ และชนิด 9 สายพันธุ์
- ป้องกันการติดเชื้อ HPV ชนิดไม่ก่อมะเร็ง ได้แก่ โรคหูดหงอนไก่บริเวณอวัยเพศและทวารหนัก มะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องคลอด หูดหงอนไก่ และมะเร็งอวัยวะเพศชาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เหมาะสำหรับผู้หญิงและผู้ชายอายุ 9-45 ปี
- ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน
ประสิทธิภาพ
- ป้องกันมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อ HPV 16 และ 18 ได้ 99%
- ป้องกันมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อ HPV อื่น ๆ ได้ 90%
- ป้องกันหูดหงอนไก่ 90%
ความปลอดภัย
- ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของไทยและนานาประเทศ
- มีผลข้างเคียงน้อย ส่วนใหญ่เป็นอาการที่ไม่รุนแรง เช่น ปวด บวม แดง ตรงรอยฉีด อาจมีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ
ข้อดี
- ป้องกันมะเร็งและโรคอื่นๆ ที่เกิดจาก HPV ได้ครอบคลุม
- ฉีดเพียง 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน
- มีประสิทธิภาพสูง ความปลอดภัยดี
ข้อเสีย
- มีราคาแพงกว่าวัคซีน HPV ชนิด 2 สายพันธุ์
- ยังไม่มีข้อมูลในระยะยาว
- อาจมีอาการข้างเคียงหลังการฉีด คือ อาการเจ็บปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีดวัคซีน
บุคคลที่แนะนำให้ฉีดวัคซีน
- เด็กผู้หญิงอายุ 9 -14 ปี ควรได้รับวัคซีน HPV 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน
- ผู้หญิงและผู้ชายอายุ 15 – 45 ปี สามารถฉีดวัคซีน HPV ตามดุลยพินิจของแพทย์
สรุป
- แพทย์จะพิจารณาเลือกชนิดของวัคซีน HPV ที่เหมาะสมกับผู้รับวัคซีนแต่ละบุคคล
- การฉีดวัคซีน HPV เป็นวิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูกและโรคอื่น ๆ ที่เกิดจาก HPV ได้ดีที่สุด แต่ไม่สามารถป้องกันได้ 100%
- ควรป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ HPV เพิ่มเติมด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ตรวจสุขภาพช่องคลอดเป็นประจำ งดสูบบุหรี่