คือ การคลอดทารกทางช่องคลอด เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ปกติ ที่มีความเสี่ยงน้อย และไม่มีข้อบ่งชี้ในการผ่าคลอด
คลอดธรรมชาติเป็นวิถีแห่งการกำเนิดที่มนุษย์ใช้กันมาเนิ่นนานนับพันปี เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่จะได้สัมผัสประสบการณ์สุดมหัศจรรย์ คือการได้เห็นลูกน้อยของตนเองลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรก
คลอดธรรมชาติมีข้อดีหลายประการ เช่น ปลอดภัยสำหรับทั้งคุณแม่และทารก ช่วยให้คุณแม่ฟื้นตัวได้เร็วกว่าการผ่าตัดคลอด และมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีสำหรับทารก
ขั้นตอนการทำ
การคลอดธรรมชาติแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้
- ระยะรอคลอด ระยะนี้คุณแม่จะรู้สึกเจ็บท้องเป็นระยะๆ คล้ายกับปวดประจำเดือน ระยะนี้อาจกินเวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวัน ช่วงท้ายของระยะนี้คุณแม่จะรู้สึกเจ็บท้องถี่ขึ้น และรุนแรงขึ้น
- ระยะเบ่งคลอด ระยะนี้คุณแม่จะรู้สึกเจ็บท้องรุนแรง และมีความรู้สึกอยากเบ่งคุณแม่จะต้องเบ่งลูกน้อยออกมาทางช่องคลอด ระยะนี้อาจกินเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- ระยะคลอดรก ระยะนี้คุณแม่จะรู้สึกเจ็บท้องอีกเล็กน้อย มดลูกจะบีบตัวเพื่อขับรกออกมา ระยะนี้อาจกินเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
การเตรียมตัวก่อนทำ
ก่อนเข้ารับการคลอดธรรมชาติ คุณแม่จะต้องเตรียมตัวดังนี้
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินความพร้อมและวางแผนการคลอด
- ตรวจสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
- เรียนรู้เกี่ยวกับการคลอดธรรมชาติ
- เตรียมตัวเรื่องอารมณ์และจิตใจ
การดูแลตัวเองหลังทำ
หลังการคลอดธรรมชาติ คุณแม่จะต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 2-3 วัน และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
- ดูแลแผลฝีเย็บให้สะอาดและแห้ง
- งดออกกำลังกายหรือยกของหนัก
ข้อดี
- ปลอดภัยสำหรับทั้งคุณแม่และทารก
- ช่วยให้คุณแม่ฟื้นตัวได้เร็วกว่าการผ่าตัดคลอด
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีสำหรับทารก
ข้อเสีย
- เจ็บปวดระหว่างการคลอด
- อาจใช้เวลานานกว่าการคลอดแบบผ่าตัด
สรุป
การคลอดธรรมชาติเป็นประสบการณ์ที่ทั้งคุณแม่และทารกจะจดจำไปตลอดชีวิต หากคุณแม่มีความพร้อมและวางแผนการคลอดเป็นอย่างดี การคลอดธรรมชาติจะเป็นประสบการณ์ที่ปลอดภัยและน่าประทับใจ